Lernning
ทับใบไม้ใส่หนังสือ
สำหรับความคิดของฉัน ฉันคิดว่าการทับใบไม้ใส่หนังสือไว้ทำให้เราได้เรียนรู้โครงสร้างของใบไม้ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถนำมาดูกิ่ง ก้านที่ใบไม้แตกแขนงออก การเปลี่ยนสีของใบไม้ และใบไม้ที่ทับไม่แตกเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่น เหมือนกับว่าใบไม้ยังมีน้ำที่ใช้ในการดูดซึมอยู่ เมื่อลูบใบไม้ดูมีเสียงเหมือนกระดาษ
ใบมะเขือพวงที่ฉันทับไว้ตอนที่อาจารย์ได้บอก
ลมพัดปลิวไหวไหว กิ่งก้านใหญ่พอทานลม
ใบไม้คนนิยม ใช้เป็นร่มกั้นแดดฝน
ใบไม้คราใบเขียว น่าดูเชียวสายตาคน
ชอุ่มคราวยามยล เหมือนฟ้าดลให้คู่กัน
บัดนี้ใบไม้แห้ง ลมพัดแรงก็หล่นพลัน
หล่นพื้นหลายคืนวัน จึงเป็นชั้นซ้อนดินดาน
ใบไม้กลายเป็นปุ๋ย ดินร่วนซุยเมื่อเนิ่นนาน
ปุ๋ยใดจักเทียมปาน เกิดจากการทับถมใบ
(บัวกันต์ วิลามาศ-ประพันธ์)
จากบทร้อยกรองข้างต้น ทำให้เราเห็นประโยชน์ของใบไม้มากมาย ทั้งเป็นที่กันลมกันแดด ให้ความสบายตาสบายใจ ให้ปุ๋ยอันเป็นประโยชน์ต่อผืนดิน และสำหรับเด็กๆ แล้ว "ใบไม้" ยังให้ประโยชน์อีกมากมายจนเราอาจทึ่งว่าของใกล้ตัวอย่างใบไม้...ใครจะไปคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ (หรือคุณครู) สามารถนำมาเป็นเครื่องมือให้เจ้าตัวน้อยได้เรียนรู้สารพัดเรื่องราวได้ขนาดนี้
ลองชวนเด็กๆ เก็บใบไม้ที่เขาเห็นใกล้ตัวมาหลายๆ แบบ แล้วมาเรียนรู้เรื่องต่างๆ กัน บางเรื่องผู้ใหญ่อย่างเราๆ เองก็อาจไม่ได้สังเกตมาก่อนเหมือนกันว่าใบไม้น่ะมีเรื่องราวแฝงอยู่มากมาย
เรียนรู้เรื่องสี ใบไม้มีหลายสี ตั้งแต่สีเขียวสีเขียวที่เราคุ้นเคยไปจนถึงระดับต่างๆ สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีน้ำตาล
เรียนรู้เรื่องรูปทรง แค่ใบไม้ในสวนหลังบ้าน ก็มีลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกันมากมาย ทั้งใบเรียวยาว ใบกลมป้อม ใบคล้ายหยดน้ำขนาดใหญ่ หรือใบมะนามไม่มีแฉก ใบตำลึงมีแฉก เป็นต้น ลองจับมาเรียงดูสิแล้วเราจะทึ่งกับความแตกต่างของรูปทรงใบไม้ที่เห็น
เรียนรู้เรื่องขนาด ใบไม้มีตั้งแต่ใบเล็กจิ๋ว เช่น ใบมะขาม ใบขนาดกลาง เช่น ผักบุ้ง ไปจนถึงใบใหญ่ เช่น ใบกล้วย (ใบตอง) หรือใบบัว เป็นต้น
เรียนรู้รื่องผิวสัมผัส ใบไม้จะมีด้านที่เป็นเส้นใบนูนขึ้นมา ให้เด็กๆ เอามือลูบดูผิวสัมผัสนั้น และสังเกตความแตกต่างของเส้นใบนั้นว่าแต่ละชนิดมีเส้นใบที่ต่างกันหรือไม่ อย่างไร หรือบางชนิดก็แข็งหนา บางชนิดก็บาง ให้ลูกได้สัมผัสถึงความแตกต่างนี้
เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ให้เด็กๆ สังเกตใบไม้สด (สีเขียว) กับ ใบแห้ง (สีน้ำตาล) ลองถามเขาว่ามันแตกต่างกันอย่างไร ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของการสอนเรื่องความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติตามหลักวิทยาศาสตร์
เรียนรู้จำนวน ลองให้เด็กๆ นับจำนวนใบไม้ในแต่ละกิ่งที่เขาตัดมาว่ามีเท่าไหร่ และเปรียบเทียบว่าต้นไม้ที่ต่างชนิดกันมีจำนวนใบในแต่ละกิ่งเท่ากันหรือแตกต่างกัน เด็กๆ จะเห็นว่าใบไม้มีทั้งใบเดี่ยว คือใบที่มีแผ่นใบไม้เพียงแผ่นเดียวบนก้านใบที่แตกออกจากกิ่งหรือลำต้น และใบประกอบ คือใบที่มีใบย่อยมากกว่าหนึ่งใบบนก้านใบ ลองนับและสังเกตกันดูสิจ๊ะ
เรียนรู้เรื่องประโยชน์ เด็กๆ จะได้เรียนรู้ว่าใบไม้สีเขียวนั้นมีประโยชน์ต่อทุกสิ่งบนโลก สีเขียวให้ออกซิเจน ให้ความสดชื่นสบายตาสบายใจ ส่วนใบไม้ที่แก่ถึงเวลาที่ต้องร่วงหล่นลงพื้นนั้นก็จะเน่าเปื่อยเป็นปุ๋ยให้พื้นดินต่อไป
ทำศิลปะง่ายๆ จากใบไม้กันเถอะ
* พิมพ์ภาพใบไม้ การทำภาพพิมพ์จากใบไม้สามารถทำได้ทั้งในลักษณะสีแห้ง คือการฝนสีเทียนบนกระดาษบางที่ทาบบนใบไม้ โดยหงายด้านที่เป็นเส้นใบขึ้น ลายเส้นของใบไม้จะปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน และการพิมพ์โดยการระบายสีโปสเตอร์บนใบไม้ แล้วคว่ำไปบนวัสดุที่ต้องการพิมพ์ เช่น กระดาษ หรือผ้า
* นำใบไม้มาแต่งภาพ โดยใช้ใบไม้มาจัดแต่งภาพ เช่น อาจให้เด็กๆ นำใบไม้ทั้งใบที่มีลักษณะคล้ายต้นไม้มาติดในภาพเป็นภาพต้นไม้ อาจนำใบไม้ที่มีลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยวมาติดเป็นรูปพระจันทร์ หรือให้เด็กๆ จินตนาการต่อเติมภาพจากใบไม้ หรืออาจนำใบไม้หลายสีมาตัดเป็นรูปทรง รูปร่างต่างๆ แล้วนำมาประกอบเป็นภาพของตัวเอง
* ทำงานประดิษฐ์จากใบไม้ สามารถนำมาทำงานประดิษฐ์ได้มากมาย เช่นทำโมบาย ทำพวงหรีดแบบง่ายๆ เป็นส่วนประดับหมวก ทำเป็นปีกผีเสื้อ ฯลฯ
โมบายใบไม้
นำใบไม้ที่มีสีสันสวยงาม สดใส นอกจากสีเขียวอาจเป็นใบสีเหลือง สีแดง และใบไม้แห้ง มาร้อยหรือติดกาวให้ยาวเป็นสายลงมาหลายๆ เส้น แล้วนำไปผูกที่น้าต่างหรือประตู เป็นโมบายใบไม้ที่สวยงาม โดยไม่ต้องซื้อหาเลย
* ดนตรีจากใบไม้ รู้มั้ยว่าเราสามารถสร้างเสียงดนตรีจากใบไม้ได้ ด้วยการเป่าใบไม้ให้เกิดเสียง อาจต้องอาศัยการฝึกฝนบ้าง แต่ก็ไม่ยากที่จะลองทำดู ขั้นแรกก็เลือกใบไม้ที่มีความบาง มีความมัน ยืดหยุ่นได้ดี เช่น ใบฝรั่ง ใบมะม่วง ใบมะยม หรือใบอ่อน ฯลฯ แล้วใช้ริมฝีปากและแรงลมเป่า เพื่อให้ริมฝีปากกับใบไม้ออกเสียงได้ตรงตามเสียงที่ต้องการ
เรียนรู้กันเพิ่มเติม...
- ใบไม้กินได้ เรียกว่าผัก
- ลักษณะนามของใบไม้ คือ "ใบ"
- ให้เด็กๆ สังเกตใบไม้เมื่อลมพัดมาว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร และลองให้เขาทำท่าเลียนแบบการเคลื่อนไหวของใบไม้ที่เขาเห็น
- แข่งกันแต่งประโยคที่มีคำว่า "ใบไม้" ให้ได้มากที่สุด
- ตั้งคำถามให้เด็กๆ ตอบว่า หากโลกนี้ไม่มีใบไม้ เขาคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
- ให้ลูกเด็ดใบไม้สีเขียวสอดไว้ในสมุดหน้าละ 1 ใบ ไม่ให้ซ้อนกัน จากนั้นนำหนังสือหนักๆ ทับสมุด ปล่อยทิ้งไว้สัก 1 อาทิตย์ กลับมาดูอีกที จะเห็นว่าใบไม้เขียวกลายเป็นใบไม้แห้ง ที่ลูกสามารถเห็นเส้นใบได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำแต่ละใบมาจัดเรียงให้เป็นระเบียบ ทากาวบางๆ ติดลงไป แล้วเขียนชื่อใบไม้แต่ละใบ วันที่ และสถานที่ที่เก็บได้ จะช่วยให้ลูกเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับใบไม้ได้ลึกซึ้งขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงของสีสัน
บทความกิจกรรมเพิ่มพลังสมอง